วันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

เมืองนี้ที่ใฝ่ฝัน


แล้วก็ไปถึงสเปนหลังจากลุ้นระทึกว่าวีซ่าจะได้หมดทั้งกลุ่มไหม ก็ตามกำหนดเดิมบินคืนวันที่ 2 พฤษภาคม วีซ่าผ่านให้เฉพาะผู้ที่ถือพาสปอร์ตราชการ ผู้ที่ใช้พาสปอร์ตแดงธรรมดาไม่ได้ซักคน เกือบจะยกเลิกแล้วเชียว ร้อนถึงสถานฑูตไทยในสเปน ยืนกรานมาว่าเลิกไม่ได้นะ กว่าจะติดต่อไปดูงานสถานศึกษาได้ขนาดนี้ไม่ใช่ง่ายๆ ต้องลองเข้าไปขอใหม่ใช้การเจรจาแบบสุดยอดวิทยายุทธอย่างไรไม่รู้ละผ่านมาได้บ่ายวันที่ 2 บินคืนวันที่ 3 โอ้โฮ ทัวร์เก่งมากๆ คืนตั๋วคืนห้องที่จองไว้หมดแล้ว เสียค่าปรับไปไม่ใช่น้อย แต่วิ่งหามาให้ใหม่ได้ราวปาฎิหารย์ ติดที่ทั้งกลุ่มต้องเดินทางแยกเป็นสองสาย สายหนึ่งนั่งสวิสแอร์ไปซูริคก่อนแล้วค่อยไปแมดริด อีกสายไปกับแอร์ฟรานซ์ลงปารีสแล้วค่อยไปเจอกันที่แมดริด เอาเถอะจะทุลักทุเลวิ่งกันจ้าละหวั่นยังไงก็ได้ไปละ ไปแล้วก็มีเรื่องราวน่าเล่าเยอะ แต่ไม่ค่อยมีเวลามาเขียนนะสิ เอาเป็นว่า ว่างก็มาเติมทีละหน่อยไปละกันนะ คราวนี้มาแบบสบายๆ ดูรูปน้ำพุกับดอกไม้ให้เย็นใจไปก่อน จะได้สมเป็นภาคต่อของบทความเพ้อฝันคราวก่อน ที่จริงไปแล้วไม่เหมือนที่เพ้อไว้ มันมีอะไรจริงจังกว่าความเพ้อเจ้อเยอะ ประเทศที่เคยยิ่งใหญ่เกรียงไกรในการสำรวจโลก ล่าอาณานิคมย่อมไม่ได้มีแต่เพียงน้ำพุแน่ สถานที่สวยงามอลังการอื่นๆจะตามมาในไม่ช้า (อย่าคาดหวังมาก เพราะถ้ารอมันจะรู้สึกว่าช้า)จนกว่าจะเจอกันใหม่นะจ๊ะ อยากให้รู้ว่าคิดถึงจังเลยตอนนั่งรถไปไหนๆในสเปนก็คิดว่าจะกลับมาเขียนโน่นนี่เต็มไปหมด พอกลับมาจริงๆงานรออื้อเลย ทำได้แค่นี้แหละ
บอกเคล็ดลับหน่อย เวลาอ่านก็คลิกตรง "เล่าเรื่องเมืองสเปน" ให้บทความอื่นมันหายไป ก็จะได้บรรยากาศมีรูปประกอบเรื่องเล่าแบบจะๆ ถ้าไม่คลิกต้องลากยาวลงไปดูรูปตั้งไกลแน่ะ

ไม่มีความคิดเห็น: